Last updated: 14 ธ.ค. 2567 | 14 จำนวนผู้เข้าชม |
หลายคนคุ้นชินกับการดื่มกาแฟทุกเช้า บางคนหลงเสน่ห์กลิ่นและรสของกาแฟ บางคนก็ชื่นชอบความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ช่วยให้สมองตื่นตัว พร้อมที่จะเริ่มงานในวันใหม่ เชื่อกันไหมว่า กาแฟถ้วยเล็กๆ ในมือที่คุณดื่มอยู่ทุกวัน เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายบรรจุอยู่ในนั้น
และมีใครสักกี่คนที่รู้ว่า กว่าจะมาเป็นกาแฟถ้วยเล็กๆ ที่แสนอร่อยในวันนี้ อาจมีเบื้องหลังอันยิ่งใหญ่ในการช่วยฟื้นฟูโลกที่กำลังป่วยให้กลับมาดีวันดีคืนอย่างช้าๆ และยั่งยืน หรืออาจเต็มไปด้วยโศกนาฏกรรมอันน่ารันทดของระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม ที่บ่อนทำลายบ้านสีเขียวของเราใบนี้อย่างเงียบๆ หลายคนคงคิดว่า แค่กาแฟ จะช่วยโลกหรือทำร้ายโลกได้อย่างไรกัน เป็นเรื่องเพ้อเจ้อทั้งนั้น! งั้น เรามาดูว่าเป็นไปได้อย่างไร
รู้ทันการณ์ แก้กันก่อนที่จะไม่เหลือโลกสีเขียวให้เราดูแล
กาแฟนับเป็นพืชเศรษฐกิจที่ทำรายได้สูง ทั้งความต้องการในตลาดก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกษตรกรจำนวนไม่น้อยเปลี่ยนจากการปลูกกาแฟใต้ร่มไม้ที่ให้ผลผลิตช้าแม้มีคุณภาพสูง มาเป็นทำไร่กาแฟเชิงเดี่ยว (ปลูกกาแฟอย่างเดียว) ที่ได้ผลผลิตที่เร็วและเก็บเกี่ยวได้บ่อยกว่า เพื่อเพิ่มพูนรายได้
แน่นอนว่า การเพิ่มปริมาณการผลิตก็ต้องมีพื้นที่ปลูก จึงเกิดการเผาทำลายป่าเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นเหตุให้ระบบนิเวศเสียหาย ปริมาณมลพิษในอากาศเพิ่มขึ้น และเกิดภัยแล้งตามมา ส่วนสัตว์ป่า หากไม่บาดเจ็บล้มตายก็ไร้บ้าน ขาดแหล่งอาหาร บางส่วนก็สูญพันธุ์ไป
อีกทั้งข้อเสียของการปลูกพืชซ้ำๆ เพียงชนิดเดียวในที่ดินเดิม ไม่เพียงทำให้ดินเสื่อมโทรม ยังทำให้ความหลากหลายทางชีวภาพลดน้อยลงไปอีก นี่ยังไม่รวมการใช้ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง กระบวนการผลิตที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขยะพลาสติกจากแก้วกาแฟและบรรจุภัณฑ์อื่นๆ ที่ก่อมลพิษทางน้ำ ทำลายระบบนิเวศ ซึ่งจะส่งผลกระทบกับทุกชีวิตบนโลกเป็นโดมิโนเชียวล่ะ
แม้อุตสาหกรรมกาแฟจะมีส่วนซ้ำเติมให้ระบบนิเวศเลวร้ายลง แต่ใช่ว่าคอกาแฟหัวใจรักโลกอย่างเราๆ จะต้องงดหรืออดกาแฟให้ปวดหัว ปวดใจกันเสียหน่อย วิธีที่ช่วยเพิ่มคุณค่าความรักษ์โลกในกาแฟถ้วยโปรดของคุณนั้นง่ายมากๆ ใครไม่อยากตกเทรนด์ก็ตามนี้เลยค่า
สู่ความยั่งยืนด้วยกาแฟออร์แกนิกใต้ร่มเงาไม้
กาแฟออร์แกนิกใต้ร่มเงาไม้ เป็นกาแฟเกษตรอินทรีย์ที่ปลูกแซมบริเวณใต้ต้นไม้ใหญ่ เพื่อให้ร่มเงาไม้ช่วยบังแดด การปลูกด้วยวิธีนี้แม้ทำให้เมล็ดกาแฟบ่มสุกช้า แต่ก็ให้ผลผลิตดี มีคุณภาพสูงกว่าเมล็ดกาแฟที่ปลูกแบบเชิงเดี่ยว ทั้งยังให้รสและกลิ่นที่หอมเข้มข้นกว่าด้วย ยิ่งเป็นกาแฟที่ปลูกบนภูเขาสูงๆ แถบป่าต้นน้ำ เมล็ดกาแฟก็ยิ่งใช้เวลาในการบ่มสุกนานขึ้นไปอีก ซึ่งส่งผลให้กาแฟมีความหวานเจืออยู่ แถมรสสัมผัสของกาแฟจะมีความซับซ้อนหลากหลายมิติมากขึ้น กลิ่นก็หอมละมุนติดในโพรงจมูกจนคุณวางแก้วไม่ลงเลยล่ะ
ข้อดีของการปลูกกาแฟแบบเกษตรอินทรีย์ใต้ร่มเงาไม้ อย่างแรกคือ ลดการทำลายป่า ลดการใช้สารเคมีไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยหรือยาฆ่าแมลง ซึ่งส่งผลให้สิ่งแวดล้อมเสียหายน้อยที่สุด แถมช่วยให้ระบบนิเวศสมดุลขึ้น และความหลากหลายทางชีวภาพก็เพิ่มขึ้นด้วย
ปัจจุบันไทยเรามีโครงการปลูกกาแฟเพื่อความยั่งยืนที่โดดเด่นหลายโครงการ อย่างเช่นโครงการคืนรอยยิ้มสู่ถิ่นไกล ที่เกิดขึ้นตามแนวพระราชดำรัสของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ภายใต้แนวคิด “สร้างป่า สร้างรายได้” นั่นเองค่ะ ซึ่งเป็นการพัฒนาชุมชนควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อม โดยโครงการนี้ส่งเสริมให้ชาวบ้านมีรายได้จากการปลูกกาแฟใต้ร่มไม้ใหญ่ นอกจากจะช่วยลดการเผาป่า ทำไร่เลื่อนลอยแล้ว ยังช่วยปกป้องป่าต้นน้ำ ให้คงความสมบูรณ์ตลอดไป อีกทั้งในกระบวนการแปรรูปกาแฟทุกขั้นตอนก็มีการควบคุม ให้สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุดด้วยค่ะ
เติมความกลมกล่อมด้วยนมจากพืช
หากใครไม่ชอบดื่มกาแฟเพียวๆ ที่มีรสเปรี้ยวขม ก็ลองเปลี่ยนมาเติมนมจากพืชกันดู บอกเลยว่านมจากพืชไม่ว่าจะเป็นนมจากถั่วเหลือง อัลมอนด์ ข้าวโอ๊ต หรือมะพร้าวมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ย่อยง่าย และเหมาะกับคนที่แพ้แลคโตสมากๆ ที่สำคัญในกระบวนการผลิตนมจากพืชทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่า เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่ากระบวนการผลิตน้ำนมจากสัตว์ค่ะ
เลือกใช้แก้วกาแฟรักษ์โลก
แก้วกาแฟพลาสติก หลอดพลาสติก หรือบรรจุภัณฑ์พลาสติกเป็นหนึ่งในตัวการทำลายระบบนิเวศ ทำลายสิ่งแวดล้อม เพราะย่อยสลายยาก และมีส่วนทำให้โลกของเราร้อนขึ้น ดังนั้นการพกพาแก้วน้ำไปเองไม่เพียงจะช่วยลดปัญหาขยะ ยังเป็นการเซฟตัวเองจากโรคติดต่อได้ด้วย หากพกพาไม่สะดวกจริงๆ ก็เลือกกาแฟที่ใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก หรือบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ แค่นี้คุณก็เป็นหนึ่งในฟันเฟืองเล็กๆ ที่แฝงพลังอย่างยิ่งใหญ่เพื่อเยียวยา รักษาโลกสีเขียวใบนี้ให้มีความยั่งยืนต่อไปแล้วละค่ะ